บริษัทฟาร์มาเน็กซ์ มีสถาบันวิจัยเป็นของตัวเองครอบคลุม 2 ซีกโลกถึง 3 แห่ง นั่นคือที่รัฐโพรโว สหรัฐอเมริกา และอีก 2 แห่งที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ในประเทศจีน จึงเป็นการทำงานวิจัยที่ผสมผสานศาสตร์แห่งตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว
มีทีมนักวิทยาศาสตร์มากกว่า 125 ท่านเข้าประจำการทำงานเต็มเวลา โดยมากกว่า 50 ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะศาสตร์สาขา นอกจากนี้ยังมีแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกเป็นที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์
อาทิเช่น ดร.เลสเตอร์ แพคเกอร์ บิดาแห่งสารต้านอนุมูลอิสระ จากมหาวิทยาลัยเบอร์กเลย แคลิฟฟอร์เนีย เป็นต้น และนอกจากนั้นยังมีสถาบันวิจัยชั้นนำ องค์กรกลาง มหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำเป็นพันธมิตรมากว่า 150 สถาบันทั่วโลก
สถาบันฟาร์มาเน็กซ์ มีมาตรฐานในการผลิตที่เข้มข้นอย่างสูง เรียกได้ว่าครอบคลุมมาตรฐานการผลิตทั้ง 6 ด้าน ที่เรียกว่า GMP ที่ใช้ในการผลิตยาและวัคซีน มาตรฐาน 6 ด้านของที่เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานระดับ GMP ในการผลิตยาและวัคซีนมีอะไรบ้าง
6 มาตรฐานผลิตภัณฑ์ฟาร์มาเน็กซ์
1.มาตรฐานอย่างแรก คือ การคัดเลือกหรือว่า Selection
การคัดเลือกสารสำคัญจากธรรมชาติเพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยสารสำคัญนั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชียวชาญและมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่มากพอ ที่จะยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยอีกทั้งมีความสมเหตุสมผลที่ควรอยู่ในรูปของอาหารเสริม
ยกตัวอย่างเช่นเครื่องดื่มผลไม้ชนิดเข้มข้น G3 ที่มีผลไม้หลักอยู่ 4 ชนิดถูกคัดเลือกมาจากผลไม้มากกว่า 1000 ชนิด ถามว่าทำไมจะต้องเป็นผลไม้สีชนิดนี้ที่ pharmanex เลือกมาเพื่อผลิตน้ำผลไม้เข้มข้น G3 เหตุผลก็เพราะ ด้วยเพราะผลไม้ทั้ง 4 ชนิดนั้นหาทานได้ยากและมีประโยชน์โดยเฉพาะให้สารต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้นกว่าผลไม้ทั่วไปถึง 10 เท่า และมีประวัติการใช้ที่ปลอดภัยมาเป็นระยะเวลารวมกว่า 1000 ปี โดยมีการศึกษามากกว่า 300 กว่าฉบับรองรับผลไม้ทั้ง 4 ชนิดจึงถูกรวมไว้ในเครื่องดื่มผลไม้เข้มข้นและจดสิทธิบัตรภายใต้เครื่องดื่มน้ำผลไม้ G3 ของความนั่นเอง
2 มาตรฐานการผลิตอย่างที่ 2 คือการคัดสรรแหล่งของวัตถุดิบ sourcing
ซึ่งหมายถึงการเลือกแหล่งวัตถุดิบที่เหมาะสมที่สุด โดยมอบหมายผู้เชี่ยวชาญ ไปควบคุมเริ่มตั้งแตาการเพาะปลูกให้ปราศจากสารเคมีอันตรายตลอดทุกขั้นตอน จนถึงการเก็บเกี่ยว มีการควบคุมคุณภาพของดิน อากาศ และสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ดี ในการคัดสรรคัดเลือกแหล่งเพราะปลูก เน้นเป็นธรรมชาติที่มีมาตรฐาน
ยกตัวอย่างเช่น การคัดเลือกจัดสรร และจัดหาแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุด ในการผลิตชาเขียวเข้มข้นที่ชื่อว่า Tree Green 97 จริงๆแล้ว แหล่งที่ปลูกชาเขียวมีอยู่มากมายหลากหลายแห่งในโลกนี้
แต่ฟาร์มาเน็กซ์ ได้เลือกแหล่งเพาะปลูกชาเขียวคุณภาพสูงที่มณฑลเจ๋อเจี่ยง ซึ่งเป็นมณฑลที่ปลูกชาเขียวอันดับ 1 ของประเทศจีน พื้นที่แห่งจากข้อมูลการวิจัยและค้นคว้า พบว่าสามารถให้สารสำคัญที่อยู่ในชาเขียวได้ในปริมาณที่สูงนั่นเอง
3 มาตรฐานการผลิตอย่างที่ 3 การคัดเลือกโครงสร้างเฉพาะ Structure
หมายถึงการวิเคราะห์ถึงโครงสร้างเฉพาะทางเคมีของสารสำคัญที่มีประโยชน์ปราศจากสารที่เป็นโทษจากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อคิดค้นวิธีสกัดเฉพาะให้ได้สารสำคัญสูงสุดเอาแต่สิ่งที่ดี ขจัดสารพิษที่ไม่ต้องการออกเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์สารสกัดใบแปะก๊วย Bio กิงโกะ 27/7 ได้ผ่านการวิเคราะห์ทางเคมีแล้วว่าให้สารสำคัญที่ช่วยบำรุงความจำและสมอง แต่ในขณะเดียวกันใบแปะก๊วยก็มีสาร gingolic ที่เป็นอันตรายต่อไตและไขกระดูกด้วย ด้วยมาตาฐานการผลิตเรื่องโครงสร้างทางเคมีของวัตถุดิบ และความใส่ใจและรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ฟาร์มาเน็กซ์ก็สกัดเอาสาร gingolic ที่จะเป็นอันตรายต่อไตและไขกระดูกออกจนหมดตามมาตรฐานสากลเช่นกันค่ะ
4. มาตรฐานการผลิตอย่างที่ 4 คือการควบคุมมาตรฐานการผลิตให้ได้ปริมาณสารสำคัญเท่าๆกันในทุกๆเม็ด Standardization
ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากปริมาณสารสำคัญที่เท่ากันทุกเม็ดแล้วผลิตภัณฑ์ยังต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบว่าสามารถแตกกระจายตัวละลายและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ตามเกณฑ์มาตรฐานเดียวกับการทดสอบเม็ดยาที่เรียกว่าเภสัชตำรับ หรือ US Pharmocopia เพื่อให้มั่นใจว่าในทุกๆเม็ดของผลิตภัณฑ์ pharmanex จะส่งมอบประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายของผู้บริโภค
ยกตัวอย่างเช่นผลิตภัณฑ์แคลเซียมที่ชื่อว่า Calcimor ทุกๆรุ่นของการผลิตแคลซิมอร์ก่อนส่งถึงมือผู้บริโภคต้องผ่านการทดสอบว่าสามารถแตกกระจายตัวโดยสมบูรณ์ภายในระยะเวลา 30 นาทีในสภาวะจำลองของกระเพาะอาหารซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของเภสัชตำรับสากล ผู้บริโภคจึงไว้วางใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของฟ้ามันจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างแน่นอนเพราะผ่านการพิสูจน์แล้วนั่นเองด้วยมาตรฐานสากล
5. มาตรฐานการผลิตอย่างที่ 5 ก็คือเรื่องของความปลอดภัย Safety
ซึ่งหมายถึงการทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์โดยต้องการผ่านการทดสอบว่าปราศจากสิ่งที่เป็นโทษสารเคมีโลหะหนักหรือเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจปนเปื้อนมาในผลิตภัณฑ์ก่อนออกสู่ท้องตลาดตัวอย่างที่ชัดเจน เช่นการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาทั่วๆไปที่อาจมีคุณภาพต่ำผู้บริโภคก็อาจเสี่ยงต่อการได้รับสารพิษเช่นโลหะหนักสารปรอทสารเคมีที่เป็นอันตรายอื่นเช่นยาฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจปะปนในผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาตามท้องตลาดที่คุณภาพต่ำได้ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพที่ร้ายแรงเมื่อรับประทานเข้าไปสู่ร่างกายได้
ผลิตภัณฑ์น้ำมันปลา มารีนโอเมก้า ทางเราได้เน้นหนักอย่างเข้มข้นในเรื่องความปลอดภัยของสารปนเปื้อนโดยมีการวิเคราะห์ตรวจสอบในทุกๆรุ่นการผลิตว่าปราศจากสารอันตรายปรอทจุลินทรีย์โลหะหนักที่อาจจะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภคก่อนนำออกสู่ท้องตลาดตามมาตรฐานสากล
6.มาตรฐานอย่างสุดท้าย คือการศึกษาทางคลินิกจากผู้ใช้จริงเพื่อการพิสูจน์ฤทธิ์ทางเภสัชให้เกิดความเชื่อมั่นจากการศึกษา Substaintiation
โดยมาตรฐานนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญมากๆของผลิตภัณฑ์ฟาร์มาเน็กซ์ ที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อทั่วๆไปโดยปกติแล้วการศึกษาหรือการพิสูจน์ฤทธิ์ทางเภสัชทางคลินิกจากผู้ใช้จริงส่วนใหญ่วิธีที่จะทำในอุตสาหกรรมการผลิตและวิจัยยาเท่านั้นเนื่องจากการศึกษาวิจัยทางคลินิกจากผู้ใช้จริงเพื่อพิสูจน์ฤทธิ์ทางเภสัชต้องใช้เงินลงทุนสูงมหาศาลแต่ฟาร์มาเน็กซ์ให้ความสำคัญกับการศึกษาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะยืนยันได้ว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพจากผลิตภัณฑ์ฟาร์มาเน็กซ์อย่างแท้จริง
ตัวอย่างที่ชัดเจนของการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์ phonetics ที่ถูกตีพิมพ์ในระดับสากลสามารถค้นหาตรวจสอบได้ทางอินเทอร์เน็ตรวมทั้งตำราทางวิทยาศาสตร์คู่มือทางการแพทย์ Light Pak ,ผลิตภัณฑ์ Treegreen 97, ผลิติภัณฑ์Rishi Mx
ฟาร์มาเน็กซ์ มีมาตราฐานที่เข้มข้น เข้มงวดในการผลิตสูง ที่เรียกว่า 6s ตามที่กล่าวข้างต้น ไม่ว่าจะเป็น Selection, sourcing ,Structure ,Standardization ,Safety ,Substaintiation ซึ่งครอบคลุมมาตรฐานการผลิตระดับ GMP มาตรฐานสากลในการผลิตยาและวัคซีน นั่นเองค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7071149/